เตรียมอนุบาลให้ลูกสุนัข
10771 จำนวนผู้เข้าชม |
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขกับผู้เลี้ยงนับเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสุนัขจะพัฒนาพฤติกรรมต่างๆในตัวเองได้มาก เช่น ความรักในตัวเจ้าของ ความเป็นเจ้าของ และจะเกิดบุคลิกภาพประจำตัวสุนัขขึ้นได้ เช่น สุนัขมีอารมณ์ที่มั่นคง ไม่หวาดกลัว กล้าหาญ ฯลฯ
ผู้เลี้ยงต้องพยายามสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อสุนัขของตน เพราะสุนัขจะถ่ายทอดบุคลิกภาพมาเจ้าเจ้าของโดยตรง
สัมพันธภาพหรือบุคลิกภาพที่ดี นั่นหมายถึงสุนัขที่ได้รับการดูแล อบรม สั่งสอน ฝึกหัดวินัย ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้โดยเจ้าของซึ่งเป็นผู้เลี้ยง ผู้เลี้ยงก็ย่อมต้องการให้สุนัขของตนเฉลียวฉลาด เชื่อฟังคำสั่ง ฝึกง่าย สอนง่าย การเตรียมอนุบาลให้ลูกสุนัขจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นผลดีแก่ลูกสุนัขเมื่อถึงเวลาที่จะเข้าโรงเรียนรับการฝึกในหลักสูตรต่างๆ ทำให้การฝึกสุนัขย่อมเป็นไปได้ง่ายและประสบผลสำเร็จค่อนข้างสูง
อายุแรกเกิดจนถึง 6 สัปดาห์ เป็นช่วงที่ลูกสุนัขเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นช่วงวิกฤติของลูกสุนัข เพราะหากการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกสุนัขถูกขัดขวาง การเจริญเติบโตจะหยุดชะงักลง การพัฒนาทางจิตใจก็ได้รับผลกระทบนี้ ดังนั้น ในช่วงวิกฤตินี้ ผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่ดูแลลูกสุนัขเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอาหาร สภาพที่อยู่และความใกล้ชิดกับลูกสุนัข เพราะสิ่งที่ขาดตกบกพร่องไปในช่วงนี้ จะไปชดเชยในช่วงอายุต่อๆไปนั้นย่อมทดแทนกันไม่ได้
สิ่งที่ลูกสุนัขเรียนรู้และพัฒนาขึ้นในตัว ขณะนี้อยู่ในช่วงวิกฤติของการเจริญเติบโตมีหลายประการ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น จึงแบ่งวิกฤติเป็น 2 ช่วง คือ
1. ช่วงแรก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 7 สัปดาห์ ช่วงนี้ลูกสุนัขจะเรียนรู้สิ่งต่างๆและการสร้างพฤติกรรมโดยอิทธิพลของแม่สุนัข ลูกสุนัขอยู่ใกล้ชิดกับแม่ตลอดเวลา ลูกสุนัขได้อาหาร ความอบอุ่น ความรู้สึกมั่นคงปราศจากอันตรายและได้พัฒนาตนเองในลักษณะที่เป็นสุนัขในสังคมของเผ่าพันธุ์ของตน
2. ช่วงหลัง ตั้งแต่หย่านม จึงถึงอายุ 6 เดือน ในช่วงนี้สมองของสุนัขจะเจริญขึ้นมากแล้ว จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเตรียมตัวสุนัขเพื่อเข้ารับการฝึกต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่าในช่วงนี้สุนัขมีความสามารถรับและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มาก
การเตรียมอนุบาลบาล ควรจะทำเมื่อลูกสุนัขอายุประมาณ 6 ถึง 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะหย่านม จะเห็นได้ว่าหากเราเตรียมสร้างบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมของการฝึกหัดให้เกิดแก่ลูกสุนัขเสียตั้งแต่ตอนเยาว์วัย ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ลูกสุนัขก็จะพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
ในช่วงหย่านม สัมพันธภาพที่เจ้าของมีต่อลูกสุนัขจะมีคุณค่ามหาศาล เพราะลูกสุนัขจากแม่และพี่น้องมา ย่อมต้องการเพื่อน เพียงแต่การที่เจ้าของลูบไล้เนื้อตัวลูกสุนัขเบาๆ ก็จะเกิดผลทางด้านจิตใจของลูกสุนัข โดยลูกสุนัขจะรู้สึกว่าเจ้าของให้ความรัก ความอบอุ่นและความปลอดภัย คำพูดปลอบโยนก็จะให้ผลใกล้เคียงกัน ลูกสุนัขเข้าใจคำพูดได้ดีกว่าที่เราคิด เรารู้แต่เพียงความหมายของถ้อยคำ แต่ลูกสุนัขรู้สึกได้ถึงความหมายและอารมณ์ของผู้พูด
เป็นที่เข้าใจว่าสัญชาตญาณของสุนัขจะสืบต่อกันมาตั้งแต่แรกเกิดไม่ต้องมีการฝึก บังคับ แต่พฤติกรรมที่ลูกสุนัขแสดงออก อาจเปลี่ยนแปลงไปได้เพราะการฝึกหัดและการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น ลูกสุนัขจะถ่ายปัสสาวะออกมาในขณะที่ปวดปัสสาวะโดยไม่เลือกที่ ผู้เลี้ยงอาจใช้กระดาษหนังสือพิมพ์มาปูบนพื้นให้ลูกสุนัขถ่ายปัสสาวะลงบนกระดาษนั้น ต่อไปลูกสุนัขจะถ่ายปัสสาวะลงบนกระดาษที่ปูไว้เสมอ
การเตรียมอนุบาลให้ลูกสุนัข หมายถึง การเตรียมการให้ลูกสุนัขเรียนรู้การให้รางวัล การแก้ไข การมีวินัยในการฝึกแต่ต้องไม่ลืมว่าลูกสุนัขในช่วงวิกฤตินั้นยังอายุน้อย ความสนใจและความตั้งใจที่จะรับรู้สิ่งต่างๆมีอยู่จำกัด จึงควรให้สุนัขค่อยๆเรียนรู้ทีละเล็กละน้อย การให้ลูกสุนัขได้เรียนจากการเล่นจะได้ผลดีที่สุด เช่น การขว้างลูกบอลให้ลูกสุนัขคาบมาส่งให้เราก็ชมลูกสุนัข โดยพูดว่า “ดีมาก” หรือตบไหล่ลูกสุนัขเบาๆเป็นรางวัล ถ้าลูกสุนัขทำสิ่งใดผิดก็สอนให้รู้จักคำว่า “ไม่” เช่นนี้ ลูกสุนัขก็จะค่อยๆเรียนรู้การฝึกและสนุกสนานไปด้วย
ลูกสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงในสังคมมนุษย์โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกสุนัข กล่าวคือ เตรียมอนุบาลลูกสุนัขให้เข้าสู่สิ่งแวดล้อมของมนุษย์นั้น ลูกสุนัขจะต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆอีกอย่างมากมายและซับซ้อน ดังนั้น ข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่สำคัญและจำเป็น
ผลของการเตรียมอนุบาลให้ลูกสุนัข เป็นการเตรียมตัวเพื่อให้ลูกสุนัขเข้าสู่สภาพแวดล้อมของสังคมมนุษย์ เป็นการปรับตัวตั้งแต่ลูกสุนัขอยู่ในวัยที่เจริญเติบโต เมื่อถึงเวลาสมควรที่จะเข้าฝึกหลักสูตรการฝึกต่างๆแล้วลูกสุนัขจะพร้อมที่จะรับการฝึก อันจะเป็นผลให้การฝึกประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม
"สายรุ้ง"
Powered by
MakeWebEasy.com