น้องแป้งเจ้าของโยดาติดต่อมาคุยให้ฟัง.....เรื่องของน้องโยดา อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบของน้องโยดา โรคนี้เป็นโรคที่แอบยากในการวินิจฉัย พาโยดาไปหาคุณหมอถึง 5 ท่าน 5 โรงพยาบาล ช่วงแรกที่ยังไม่ได้เจอคุณหมอเก่งๆ ได้รับคำอธิบายที่แบบหาคำตอบไม่ได้ ท้อมากและเหนื่อย ร้องไห้ทั้งอาทิตย์

แต่แล้ว การวินิจฉัยเบื้องต้น ที่เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบมี 2 คุณหมอท่าน 2 โรงพยาบาลที่วินิจฉัยมาถูกต้อง คือคุณหมอกัมปนาท (โรงพยาบาลที่ 2) และคุณหมอศิราม (โรงพยาบาลที่ 5) นอกนั้นอะไรก็ไม่รู้ เช่น พฤติกรรมบ้าง คออักเสบบ้าง จะบ้าตาย

อาการของโยดา

มีวันนึงแม่บ้านบอกมาว่าโยดามีการวิ่งเอียงอยู่ประมาณแปปเดียวแล้วก็หาย เป็นปกติ และไม่ยอมทานข้าว ซึ่งตอนแรกคิดว่ามีการเปลี่ยนอาหารบ่อยๆ วันรุ่งขึ้นพาน้องไปหาสัตว์แพทย์ซึ่งแพทย์ก็ตรวจเลือดตรวจทุกๆอย่างในเบื้องต้นคุณหมอแจ้งมาว่า สุนัขเป็นปกติ แค่ดื้อไม่ยอมทานข้าว และหลังจากนั้นก็กลับมาให้อาหารเดิม ก็ทานเป็นปกติ จนกระทั่งอยู่ดีๆ โยดาก็มีอาการเห่าผิดปกติ เห็นอะไรก็ตัวสั่น เห่า (คลิปบนรถ) มีการขู่อยู่บ่อยครั้ง นอนก็ขู่ แม่บ้านพาออกไปเดิน เห่าทั้งซอย ตลอดทาง มีการเดินหัวตก มองแต่พื้น และมีอาการกลัว ซึ่งคิดว่าไม่ปกติแล้ว เลยพาเข้าโรงเรียนฝึกสุนัข แต่น้องฝึกได้ 1 วันทางโรงเรียนเห็นความผิดปกติ น้องจึงได้ทำการ MRI และ ตรวจน้ำไขสันหลัง ซึ่งผล MRI จะออกเลย แต่ผลเพาะเชื้อจะมี 2 แบบผล ดูค่า CSF เบื้องต้นว่ามีอะไรผิดปกติ ผลนี้จะออกประมาณ 3 วัน คือผลของโยดาจะออกมาว่า เยื้อหุ้มสมองมีเลือดไหล และมีหนอง ซึ่งในผลlab แรก โยดาจะถูกให้ยาในเบื้องต้นก่อน แต่ผลอีกอันจะออกค่อนข้างช้าประมาณ 7-10 วันซึ่งผลนี้จะเป็นผลที่คุณหมอต้องการมากที่สุด ว่าน้องหมาไปโดนเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อต่างๆนานา และมียาปฎิชีวะนะอะไรที่สามารถทานได้ และให้ผลที่ดี ก็ลุ้นเกือบทุกวัน เพราะช่วงนั้นโยดาเริ่มมีอาการหัวสั่น โทรจิกผลจากโรงพยาบาลทุกวัน สรุปผลที่ออกมาเป็นการติดเชื้อ แบคทีเรีย (คุณหมอ ท่านที่ 5 แจ้งว่าแอบดีใจ ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียน้องสามารถขายขาดได้ ถ้าการเจาะไขสันหลังไม่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกตามผิวหนังตอนเจาะ เพราะคุณหมอท่านที่ 5 ไม่ได้เป็นคนเจาะเอง)

ตอนนี้น้องโยดาได้ทำการรักษาจริงจังกับคุณหมอที่เก่ง และเฉพาะทางเกี่ยวกับระบบประสาทแล้วกับคุณหมอศิราม (โรงพยาบาลที่5) ทำการให้ยาประมาณ เกือบ 2 อาทิตย์แล้วคะ คาดว่าจะต้องให้ยาอีก ประมาณ 4-8 อาทิตย์ และเจาะน้ำไขสันหลังมาตรวจเพิ่ม ช่วงก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มารักษากับคุณหมอศิราม ภูมิน้องจะค่อนข้างตกมาก ก่อนหน้าจะทราบว่าน้องเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ นึกว่า เป็นพฤติกรรมที่โยดาเลียนแบบสุนัขอื่นๆ เลยพาไปโรงเรียนฝึกสุนัข เข้าไปแปปเดียวก็ ด้วยความซวยซ้ำ 2 โยดาเลยติดเชื้อโปรโตชัวมา ที่ทำให้ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด ทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบ ตอนนี้ก็รักษาควบคู่กันไป ช่วงนี้ก็สุนัขที่บ้านมี 2 ตัวก็ต้องแยกบ้านกันเพราะ โรคบิดนี้สามารถแพร่สู่สุนัขตัวอื่น และสู่คนได้คะ เวลาพาโยดาไปเดินก็ต้องพกถุงเก็บอุจจาระซึ่งทำมาเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ต้องพกไฮเตอร์ผสมน้ำไว้ฉีดที่ที่น้องอึในที่สาธารณะ (ที่สำคัญควรให้น้องอึบนพื้นผิวคอนกรีต ไม่ใช่สนามหญ้า) โยดาจะได้ไม่เป็นพาหะนำโรคสู่สุนัขตัวอื่นเพราะเชื้อนี้สามารถอยู่บนโรคใบนี้ได้ถึง 1 ปีถ้าไม่มีการฆ่าเชื้อ ช่วงนี้ในบ้านก็มีการทำความสะอาดบ้านด้วยยาฆ่า bacteria 99.99% รวมทั้งใช้เครื่องถูบ้านที่ใช้ไอน้ำความร้อนถูบ้านเพื่อฆ่าเชื้อโรค และซักพรม ซักเตียง ซักปลอกคอโยดาด้วยไฮเตอร์ทุกวัน

ด้วยความที่ Boston terrier ชอบอยากรู้อยากเห็น ดมๆๆๆๆๆ กินๆๆๆ อะไรไปหมด ก็อยากให้ระวังเรื่องนี้ และขอสรุป อาการสั้นๆให้ว่า ถ้าน้องมีอาการเดินเอียงบ้าง กินเอียง เห่าผิดปกติที่ไม่เคยเป็น เพราะโรคนี้จะทำให้น้องมีความรู้สึกที่ไวผิดปกติ ทั้งเสียงรอบข้าง จากหมาที่ทานขนม soft soft กลับกลายเป็นหมาที่งับเร็วมาก มีการเดินที่หัวตก ตัวสั่น ให้รีบพาไปหาหมอนะคะ อาการโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะ tricker ประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากน้องไปโดน อะไรมา และทางเราก็ต้อง track back ช่วยหาข้อมูลไปว่าน้องไปทำอะไรมา (ซึ่งเชื้อแบคทีเรียสามารถมาจากเลือด การกิน หรือการดมเชื้อเข้าไป) และหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ครึ่งสักพักน้องจะมีอาการหัวสั่น หรือนำไปสู่การชักได้ สามารถขาด ออกซิเจนในสมอง และเสียชีวิตได้คะ ถ้าทิ้งไว้นานและไม่รักษา ตอนนี้โยดาอาการดีขึ้นทุกๆวัน 

ท้ายนี้ ขอขอบคุณโรงเรียนฝึกสุนัขที่สังเกตอาการโยดา และขอขอบคุณคุณหมอ 2 ท่านที่วินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง คือคุณหมอกัมปนาท และคุณหมอศิราม ตอนนี้โยดาได้รักษาอยู่กับคุณหมอศิรามที่เชี่ยวชาญทางด้านระบบประสาทโดยตรง พลิกแผ่นดินตามหาคุณหมอเลยและ คุณหมอน่ารักมากๆ คอยเขียนมาถามอาการโยดาเพราะในระหว่างที่รักษากับแก แกจะทำการศึกษาเคสโยดาไปด้วยเรื่องการให้ยาที่ถูกต้องควรให้ตัวไหนก่อน ลดโดส เพิ่มโดส ตามอาการ ถ้าไม่ได้คุณหมอ ไม่รู้ว่าโยดาจะเป็นยังไง ขอบคุณมากๆนะคะ  เจอโรคเร็วก็รักษาได้เร็ว และรวมทั้งการหาคุณหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วยคะ